
เช้ามืดวันที่ 24 พฤศจิกายน (ตามเวลาประเทศไทย):
ศึกลูกหนังซาอุดี โปรลีก กลับมาสร้างความฮือฮาอีกครั้ง เมื่อ "อัล นาสเซอร์" เปิดบ้านถล่ม "อัล คาลีจ" (Al-Khaleej) ไปอย่างขาดลอย 4-1 แต่ไฮไลท์สำคัญที่ขโมยซีนทุกอย่างเกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เมื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์วัย 40 ปี โชว์ลีลาจักรยานอากาศฟาดบอลเข้าประตูไปอย่างเหนือชั้น สร้างความตกตะลึงให้กับเพื่อนร่วมทีม คู่แข่ง และแฟนบอลทั้งสนาม วินาทีนั้นราวกับภาพฉายซ้ำความยิ่งใหญ่ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อ 7 ปีก่อนไม่มีผิด
รูปเกมเริ่มต้นด้วยความดุเดือด โดยในครึ่งแรก อัล นาสเซอร์ เป็นฝ่ายครองเกมบุกและยิงนำไปก่อนถึง 2 ประตู โดย โรนัลโด้ ที่ลงสนามเป็นตัวจริงโชว์ฟอร์มได้อย่างมุ่งมั่น แต่เข้าสู่ครึ่งหลัง ทีมเยือนฮึดสู้ตีไข่แตกไล่มาได้ทำให้สถานการณ์เริ่มตึงเครียด จนกระทั่งนาทีที่ 77 ซาดิโอ มาเน่ มาซัดประตูหนีห่างเป็น 3-1 ซึ่งแทบจะการันตีชัยชนะได้แล้ว ส่วน โรนัลโด้ แม้จะเล่นได้อย่างสุขุมมาตลอดเกม แต่ก็ต้องเสียดายเมื่อลูกยิงในนาทีที่ 88 ของเขาถูกจับล้ำหน้าไปก่อน ท่ามกลางเสียงถอนหายใจของแฟนๆ

แต่แล้วช่วงเวลาแห่งเวทมนตร์ก็มาถึงในนาทีที่ 90+6 (ทดเจ็บนาทีที่ 6) เมื่อบอลเปิดจากริมเส้นฝั่งขวาลอยโด่งเข้าเขตพทษ บอลลอยข้ามมาทางด้านหลังของ โรนัลโด้ เขาตัดสินใจทิ้งตัวลอยขึ้นฟ้าฟาดจักรยานอากาศทันที ท่าทางอันสมบูรณ์แบบและการลอยตัวที่ดูเหมือนหยุดเวลาได้ ส่งบอลพุ่งเสียบมุมตายชนิดที่ผู้รักษาประตูได้แต่มองตาค้าง ช็อตนี้ทำเอาทุกคนในสนามถึงกับอ้าปากค้างด้วยความทึ่ง
ภาพช้าแสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทันทีที่บอลเข้าประตู เจา เฟลิกซ์ เพื่อนร่วมทีม รวมถึงกองหลังคู่แข่ง ต่างพากันเอามือกุมศีรษะด้วยความไม่อยากเชื่อสายตา แฟนบอลเจ้าถิ่นกระโดดตัวลอยด้วยความสะใจ ก่อนที่ โรนัลโด้ จะระเบิดท่าดีใจ "SIU" อันเป็นเอกลักษณ์ โดยมีเพื่อนร่วมทีมกรูเข้ามาสวมกอด บรรยากาศในสนามเดือดพล่านสุดขีด นี่คือบทพิสูจน์ของวินัยและพรสวรรค์ที่ชายวัย 40 ปีแสดงให้โลกเห็น

ลูกยิงนี้ทำให้นึกย้อนไปถึงช็อตจักรยานอากาศในตำนานที่เขายิงใส่ ยูเวนตุส เมื่อปี 2018 ในสีเสื้อ เรอัล มาดริด แม้เวลาจะผ่านไป 7 ปี แต่สภาพร่างกายของ โรนัลโด้ ยังคงแข็งแกร่ง ท่วงท่าลื่นไหลและทรงพลังไม่เปลี่ยน ครั้งนั้น จานลุยจิ บุฟฟ่อน ยังต้องยอมรับในฝีเท้า และวันนี้สนามที่ซาอุดีอาระเบียก็ได้เป็นสักขีพยานปาฏิหาริย์อีกครั้ง จนแฟนบอลถึงกับคอมเมนต์ว่า "โรนัลโด้ดึงเวลากลับไปสู่จุดพีคอีกครั้ง"
สถิติที่น่าทึ่ง: ฤดูกาลนี้ โรนัลโด้ ลงสนามไปแล้ว 17 นัด ซัดไป 16 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์ ยอดรวมประตูตลอดอาชีพการค้าแข้งพุ่งขึ้นเป็น 954 ประตู เหลืออีกเพียง 46 ประตูเท่านั้นก็จะครบ 1,000 ลูก การรักษาค่าเฉลี่ยเกือบ 1 ประตูต่อนัดในวัย 40 ปี เป็นเรื่องที่หาได้ยากยิ่งในโลกฟุตบอล หลังจบเกมเจ้าตัวยังโพสต์คลิปวิดีโอลงโซเชียลมีเดียด้วยความภาคภูมิใจ
ชัยชนะนัดนี้ส่งให้ อัล นาสเซอร์ คว้าชัยชนะ 9 นัดติดต่อกัน นำโด่งเป็นจ่าฝูงต่อไป ลูกยิงจักรยานอากาศของ โรนัลโด้ ไม่ใช่แค่ความสวยงามส่วนตัว แต่คือการปลุกใจเพื่อนร่วมทีม และเป็นการประกาศศักดาว่า "ซูเปอร์สตาร์ตัวจริง" คือผู้ที่ยังคงสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ไม่ใช่แค่เหลือไว้เพียงความทรงจำ
